วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

รุ่น Canon EOS M

ก็เป็นไปตามที่มีข่าวมาเมื่อตอน กลางๆ เดือน ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 23 กรกฎาคม และมีภาพ (จริง) หลุดออกมาก่อนเปิดตัวไม่กี่วัน รูปร่างหน้าตาจะถูกอก ถูกใจใครบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนล่ะครับ zoomcamera.net ไม่ขอฟันธงละกันว่าสวยหรือไม่สวย

จุดเด่นของกล้อง Canon EOS M
เซ็นเซอร์ภาพ APS-C 'Hybrid CMOS'ความละเอียด 18 ล้านพิกเซลหน่วยประมวลผล DIGIC5 processorเมาท์เลนส์ EF-Mความไวแสง ISO 100-12800 ปรับเพิ่มได้ถึง 25600ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.3 fps  และ 3 fps เมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ trackingบันทึกวิดีโอ Full HD 1080pจอมอนิเตอร์ 3 นิ้ว 1,040,000 พิกเซล แบบ Touch Screen
มีฮอทชูสำหรับแฟลชเสริม

มาดูสเปคการทำงานอื่นๆ กันบ้างว่าเจ๋งแค่ไหน เริ่มจากเซ็นเซอร์ที่มีข่าวออกมาก่อนนี้ว่าจะมี 2 แบบคือ เซ็นเซอร์เท่าๆ กับ Canon PowerShot G1 X ที่มีขนาด 1.5 นิ้ว และเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ก็ชัดเจนกันไปล่ะครับ ว่า Canon EOS M ใช้เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C (22.3 x 14.9 มม.) ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล จัดการไฟล์และประมวลผลการทำงานด้วย DIGIC 5 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลใหม่ที่ใช้ในกล้อง  Canon EOS 650D ด้วยนั่นเอง

anon EOS M ออกแบบเมาท์เลนส์ใหม่เป็นเมาท์ EF-M พร้อมๆ กับเปิดตัวเลนส์ใหม่ 2 รุ่นคือ เลนส์ซูม EF-M 18-55mm f/3.5-5.6 IS STM และเลนส์แพนเค๊ก EF-M 22mm f/2 STM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ใช้มอเตอร์ออโต้โฟกัสใหม่แบบ STM (Stepper Motor) ทั้งคู่ โดยเลนส์ STM จะโดดเด่นที่ปรับโฟกัสได้เงียบมาก ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอ ซึ่งจะไม่มีเสียงมอเตอร์ทำงานมารบกวนการบันทึกเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป และสำหรับผู้ที่ใช้เลนส์ EF เดิม สามารถนำมาใช้งานกับกล้อง Canon EOS M ได้ ด้วยอะแดปเตอร์ EF-EOS M ที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันด้วยนั่นเอง โดยสามารถใช้งานได้ทั้งเลนส์ตระกูล EF และ EF-S

เนื่องจากว่า Canon EOS M ใช้เซ็นเซอร์ APS-C เหมือนกับกล้อง D-SLR รุ่นอื่นๆ ดังนั้นจึงให้คุณภาพไฟล์ที่ไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก ส่วนโหมดบันทึกภาพเลือกได้ทั้ง โหมดโปรแกรม (P), ออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (AV), ออโต้รูรับแสง (TV) และแมนนวล (M) ซึ่งโหมดย่อยเหล่านี้ จะเลือกจากเมนูการทำงานอีกที นอกจากนี้ยังมี Scene Mode อีกกว่า 8 รูปแบบให้เลือกใช้งานด้วย รวมทั้งบันทึกวิดีโอคุณภาพ Full HD เช่นเดียวกับกล้อง D-SLR ตระกูล EOS รุ่นอื่นๆ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Canon EOS M คือ ปรับควบคุมการทำงานด้วยระบบ Touch Screen เลือกปรับตั้งเมนูการทำงาน, โหมดถ่ายภาพ และฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ จากจอมอนิเตอร์แบบ Clear View LCD IIขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล ซึ่งมีระบบการทำงานคล้ายๆ กับกล้อง Canon EOS 650D ซึ่งเป็น D-SLR ตัวแรกของแคนอนที่ใช้ฟังก์ชั่น touch Screen นี้ด้วยเช่นกัน

 Canon EOS M ปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO100-12800 และปรับเพิ่มได้สูงสุดถึง ISO25600 ซึ่งก็ถือว่ามีช่วงความไวแสงที่กว้างมากทีเดียว และถ้าหากว่าไม่ต้องการปรับเปลี่ยนบ่อยๆ จะเลือกใช้แบบ Auto ให้กล้องปรับชิฟท์ความไวแสงตามความเหมาะสมกับสภาพแสงก็ได้เช่นกัน ส่วนไวท์บาลานซ์ก็เลือกใช้แบบออโต้ก็ได้เช่นกันหรือจะปรับตามสภาพแสงแบบต่างๆ เองก็ปรับได้อีก 6 แบบ และสามารถปรับแบบ Custom ได้อีกหนึ่งแบบด้วย

 ด้านบนของตัวกล้องออกแบบให้มีฮอทชูสำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ GPS หรือแฟลชเฉพาะกิจ โดยพร้อมๆ กับการเปิดตัวกล้อง Mirrorless ใหม่นี้ แคนนอนก็ผลิตแฟลชเฉพาะกิจของกล้อง Canon EOS Mด้วย นั่นคือรุ่น Speelite EX-90 ซึ่งเป็นอุปกนณ์ที่มีมาให้พร้อมๆ กับตัวกล้องด้วยนั่นเอง หรือจะใช้กับแฟลชเฉพาะกิจ Speedlite รุ่นอื่นของแคนนอนก็ได้เช่นกัน
Canon EOS M บันทึกภาพและข้อมูลการทำงานต่างๆ ด้วยเมมโมรี่การ์ดแบบ SDSDHC และ SDXC card ช่อง USB ยังคงเป็นเวอร์ชั่น 2.0 อยู่ และมีช่อง HDMI ด้วย แหล่งพลังงานได้จากแบตเตอรี่ Lithium-Ion LP-E12 ตัวกล้องมีขนาด 109 x 66 x 32 มม. น้ำหนัก 402 กรัม
         ส่วนเมนูการทำงาน รวมทั้งฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ และการวางรูปแบบของเมนูการทำงานของ Canon EOS M นั้นไม่ได้แตกต่างจากกล้อง EOS รุ่นอื่นๆ เท่าใดนัก ซึ่งถ้าหากว่าวางจำหน่ายแล้วzoomcamera.net คงจะมีโอกาสได้นำตัวเป็นๆ มารีวิวกันอีกครั้งครับ

ราคาในตอนนี้ 9,709 บาท




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น