วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

รุ่น Canon EOS 100D



       Canon EOS 100D (Rebel SL1, Kiss X7) แน่นอนมันมาพร้อมกับบอดี้ที่เล็กตามข่าวลือ และเป็นกล้อง APS-C DSLR ที่เล็กและเบาที่สุดในโลกด้วย แต่ยังคงรูปแบบและระบบต่างๆในแบบ DSLR ไว้อย่างครบถ้วน อย่างรอช้าเลย เราไปดูสเปคกันเลยครับ

Canon EOS 100D Specification
  • เซนเซอร์ CMOS APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล
  • ชิพประมวลผล DIGIC V
  • ISO 100-12800 ขยายได้ถึง 25600
  • จุด Autofocus  9 จุด มีจุดกลางเป็น cross-type
  • ระบบ Hybrid CMOS AF II ครอบคลุมพื้นที่กว่า 80%
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4 เฟรมต่อวินาที
  • ความเร็วชัตเตอร์ 30-1/4000 วินาที
  • ช่องมองภาพครอบคลุมการมองเห็น 95%
  • หน้าจอแสดงผล Clear View II Touchscreen LCD ขนาด 3.0" ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
  • ถ่าย VDO Full HD 1080p
  • มี Scene Intelligent Auto Mode และ Creative Filters
  • รองรับการใช้เลนส์ Canon EF และ EF-S
  • รองรับการใช้งานการ์ด SD / SDHC / SDXC
  • ใช้แบตเตอรี่ LP-E12
  • น้ำหนัก 370 กรัม (เฉพาะบอดี้) และ 407 กรัม (เมื่อใส่แบตฯและการ์ด)
    Size (ขนาด)

              แน่นอนเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ"ขนาด"ของเจ้า EOS 100D ตัวนี้ เพราะถือได้ว่าเป็น APS-C DSLR ที่เล็กและเบาที่สุดในโลกในขณะนี้ พอลองนึกๆดูแล้วขนาดมันก็พอๆกับ Mirrorless ในสไตล์ DSLR อย่างพวก Panasonic G5 เลย แต่จุดที่ 100D จะเจ๋งกว่า Mirrorless นั้น แน่นอนว่าเพราะมันมี Optical Viewfinder นั่นเอง ทำให้เราสามารถมอง Viewfinder ได้สบายตากว่าแบบ EVF ใน Mirrorless แต่อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ Viewfinder ของ Canon EOS 100D ยังคงครอบคลุมการมองเห็นแค่ 95% เท่านั้น เรื่องขนาดนั้นถือว่าน่าชื่นชมเพราะแม้จะต้องเผื่อพื้นที่ให้กับกระจกสะท้อนภาพ ไหนจะปริซึมต่างๆ เซนเซอร์ขนาดใหญ่ และยังสามารถใช้เลนส์ EF กับ EF-S ได้อีกด้วย แถมยังมีระบบกับการวางปุ่มที่ไม่ด้อยไปกว่า DSLR รุ่นพี่อย่าง 600D, 650D, หรือ 700D เลย แต่ Canon ก็ยังออกแบบได้เล็กขนาดนี้ อันนี้ต้องยกให้เค้าเลยสุดยอดๆ 

      อีกอย่าง ถ้าขนาดเล็กขนาดนี้ พวกกล้อง DSLR-Like เกรดสูงๆอาจมีหนาวนะ
    System (ระบบ)
              แน่นอนกล้องใหม่ๆแบบ EOS 100D ทาง Canon ก็ได้จับระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆยักเข้าไปในร่างเล็กๆนั่นด้วย โดยจะมีสิ่งที่น่าสนใจหลักๆดังนี้ครับ
              Touchscreen
              ช่วงนี้หน้าจอระบบสัมผัสกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จนระบาดเข้ามาในตลาดกล้อง DSLR จนได้ในที่สุด Canon EOS 100D เองก็ใช้หน้าจอ Touchscreen เช่นเดียว 650D และ EOS M โดยจะเป็นหน้าจอแบบ Capacitive แบบเดียวกับที่เราใช้ใน Smart Phone อย่าง iPhone หรือ Android หน้าจอประเภทนี้จะทนทานและไวต่อการสัมผัส ในส่วนของ Interface ก็จะเป็นแบบเดียวกับที่เราเห็นใน 650D และ EOS M อีกจุดสังเกตหนึ่งคือปุ่ม Q ที่จะเป็น Quick Menu ในกล้อง Canon นั้นได้หายไปแล้ว ส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะความต้องการลดพื้นที่ในการใช้ปุ่ม เพื่อให้ออกแบบได้เล็ก และการมีหน้าจา Touchscreen ก็ทำให้เราสามารถสัมผัสที่หน้าจอเพื่อเลือกปรับค่าต่างๆได้ง่ายอยู่แล้ว ปุ่ม Q นั้นจึงสามารถนำออกไปได้

        Hybrid CMOS AF II
              ระบบ Hybrid AF นั้นเป็นระบบที่ช่วงนี้เราจะเห็นเยอะมากๆในกล้องที่เปิดตัวใหม่ ระบบ Hybrid AF ที่ว่านี้ก็คือ การมีระบบ Phase Detection และระบบ Contrast Detection ทำงานประสานกัน จึงเรียกเป็นระบบ Hybrid ซึ่งแต่เดิมนั้นกล้องคอมแพคและกล้อง Mirrorless จะใช้ระบบ AF แบบ Contrast Detection ซึ่งจะมีข้อเสียตรงที่ความแม่นยำและความเร็วในการ AF จะสู้แบบ Phase Detection ไม่ได้ ซึ่งระบบ Phase Detection นั้นจะเป็นระบบที่ใช้กันอยู่แล้วในกล้อง DSLR ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กล้อง Mirrorless ไม่สามารถมาแทน DSLR ได้ เพราะความเร็วในการ AF และการ Tracking ตามวัตถุต่างๆยังไม่รวดเร็วแบบ DSLR เพราะ Contrast Detection นั้นไม่สามารถทราบได้ว่าวัตถุนั้นอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลกว่าตำแหน่งโฟกัสเดิม บางครั้ง Contrast Detection จึงอาจหมุนระยะโฟกัสเลยไปก่อนแล้วจึงหมุนย้อนกลับมา ซึ่งเสียเวลาไปมาก แต่ Phase Detection นั้นสามารถตรวจจับได้ว่าวัตถุอยู่ใกล้หรือไกลกว่าระยะโฟกัสเดิม จึงทำการ AF ได้เร็วกว่า ดังนั้น เมื่อมี 2 ระบบทำงานร่วมกัน Phase Detection ก็จะคอยหาตำแหน่งของวัตถุและตรวจจับว่าวัตุนั้นอยู่ใกล้หรือไกลกว่าระยะโฟกัสเดิม และควรจะหมุนระยะโฟกัสไปทางไหน แถมยังมี Contrast Detection เข้ามาช่วย Autofocus ด้วยอีกตัวหนึ่ง สองตัวช่วยกันหาความเร็วที่ออกมาจึงเร็วกว่าระบบแบบเดิมมาก และในปัจจุบันทั้งกล้อง Mirrorless และ DSLR กำลังก้าวเข้าสู่ระบบ Autofocus แบบ Hybrid กันเรื่อยๆแล้ว



         Canon EOS 100D นั้นใช้ระบบ Hybrid CMOS AF II ที่พัฒนาเพิ่มเติมมาจากระบบ Hybrid AF ใน 650D และ EOS M โดยจุดที่พัฒนาขึ้นมานั้นคือระบบ Hybrid CMOS AF II จะครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ขึ้นมากถึงกว่า 80% และระบบนี้ยังถูกพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้กับเลนส์ STM ได้ดีอีกด้วย

    ราคาในตอนนี้  15,900 - 26,900







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น