วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

รุ่น Canon EOS 100D



       Canon EOS 100D (Rebel SL1, Kiss X7) แน่นอนมันมาพร้อมกับบอดี้ที่เล็กตามข่าวลือ และเป็นกล้อง APS-C DSLR ที่เล็กและเบาที่สุดในโลกด้วย แต่ยังคงรูปแบบและระบบต่างๆในแบบ DSLR ไว้อย่างครบถ้วน อย่างรอช้าเลย เราไปดูสเปคกันเลยครับ

Canon EOS 100D Specification
  • เซนเซอร์ CMOS APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล
  • ชิพประมวลผล DIGIC V
  • ISO 100-12800 ขยายได้ถึง 25600
  • จุด Autofocus  9 จุด มีจุดกลางเป็น cross-type
  • ระบบ Hybrid CMOS AF II ครอบคลุมพื้นที่กว่า 80%
  • ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4 เฟรมต่อวินาที
  • ความเร็วชัตเตอร์ 30-1/4000 วินาที
  • ช่องมองภาพครอบคลุมการมองเห็น 95%
  • หน้าจอแสดงผล Clear View II Touchscreen LCD ขนาด 3.0" ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
  • ถ่าย VDO Full HD 1080p
  • มี Scene Intelligent Auto Mode และ Creative Filters
  • รองรับการใช้เลนส์ Canon EF และ EF-S
  • รองรับการใช้งานการ์ด SD / SDHC / SDXC
  • ใช้แบตเตอรี่ LP-E12
  • น้ำหนัก 370 กรัม (เฉพาะบอดี้) และ 407 กรัม (เมื่อใส่แบตฯและการ์ด)
    Size (ขนาด)

              แน่นอนเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ"ขนาด"ของเจ้า EOS 100D ตัวนี้ เพราะถือได้ว่าเป็น APS-C DSLR ที่เล็กและเบาที่สุดในโลกในขณะนี้ พอลองนึกๆดูแล้วขนาดมันก็พอๆกับ Mirrorless ในสไตล์ DSLR อย่างพวก Panasonic G5 เลย แต่จุดที่ 100D จะเจ๋งกว่า Mirrorless นั้น แน่นอนว่าเพราะมันมี Optical Viewfinder นั่นเอง ทำให้เราสามารถมอง Viewfinder ได้สบายตากว่าแบบ EVF ใน Mirrorless แต่อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ Viewfinder ของ Canon EOS 100D ยังคงครอบคลุมการมองเห็นแค่ 95% เท่านั้น เรื่องขนาดนั้นถือว่าน่าชื่นชมเพราะแม้จะต้องเผื่อพื้นที่ให้กับกระจกสะท้อนภาพ ไหนจะปริซึมต่างๆ เซนเซอร์ขนาดใหญ่ และยังสามารถใช้เลนส์ EF กับ EF-S ได้อีกด้วย แถมยังมีระบบกับการวางปุ่มที่ไม่ด้อยไปกว่า DSLR รุ่นพี่อย่าง 600D, 650D, หรือ 700D เลย แต่ Canon ก็ยังออกแบบได้เล็กขนาดนี้ อันนี้ต้องยกให้เค้าเลยสุดยอดๆ 

      อีกอย่าง ถ้าขนาดเล็กขนาดนี้ พวกกล้อง DSLR-Like เกรดสูงๆอาจมีหนาวนะ
    System (ระบบ)
              แน่นอนกล้องใหม่ๆแบบ EOS 100D ทาง Canon ก็ได้จับระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆยักเข้าไปในร่างเล็กๆนั่นด้วย โดยจะมีสิ่งที่น่าสนใจหลักๆดังนี้ครับ
              Touchscreen
              ช่วงนี้หน้าจอระบบสัมผัสกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จนระบาดเข้ามาในตลาดกล้อง DSLR จนได้ในที่สุด Canon EOS 100D เองก็ใช้หน้าจอ Touchscreen เช่นเดียว 650D และ EOS M โดยจะเป็นหน้าจอแบบ Capacitive แบบเดียวกับที่เราใช้ใน Smart Phone อย่าง iPhone หรือ Android หน้าจอประเภทนี้จะทนทานและไวต่อการสัมผัส ในส่วนของ Interface ก็จะเป็นแบบเดียวกับที่เราเห็นใน 650D และ EOS M อีกจุดสังเกตหนึ่งคือปุ่ม Q ที่จะเป็น Quick Menu ในกล้อง Canon นั้นได้หายไปแล้ว ส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะความต้องการลดพื้นที่ในการใช้ปุ่ม เพื่อให้ออกแบบได้เล็ก และการมีหน้าจา Touchscreen ก็ทำให้เราสามารถสัมผัสที่หน้าจอเพื่อเลือกปรับค่าต่างๆได้ง่ายอยู่แล้ว ปุ่ม Q นั้นจึงสามารถนำออกไปได้

        Hybrid CMOS AF II
              ระบบ Hybrid AF นั้นเป็นระบบที่ช่วงนี้เราจะเห็นเยอะมากๆในกล้องที่เปิดตัวใหม่ ระบบ Hybrid AF ที่ว่านี้ก็คือ การมีระบบ Phase Detection และระบบ Contrast Detection ทำงานประสานกัน จึงเรียกเป็นระบบ Hybrid ซึ่งแต่เดิมนั้นกล้องคอมแพคและกล้อง Mirrorless จะใช้ระบบ AF แบบ Contrast Detection ซึ่งจะมีข้อเสียตรงที่ความแม่นยำและความเร็วในการ AF จะสู้แบบ Phase Detection ไม่ได้ ซึ่งระบบ Phase Detection นั้นจะเป็นระบบที่ใช้กันอยู่แล้วในกล้อง DSLR ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กล้อง Mirrorless ไม่สามารถมาแทน DSLR ได้ เพราะความเร็วในการ AF และการ Tracking ตามวัตถุต่างๆยังไม่รวดเร็วแบบ DSLR เพราะ Contrast Detection นั้นไม่สามารถทราบได้ว่าวัตถุนั้นอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลกว่าตำแหน่งโฟกัสเดิม บางครั้ง Contrast Detection จึงอาจหมุนระยะโฟกัสเลยไปก่อนแล้วจึงหมุนย้อนกลับมา ซึ่งเสียเวลาไปมาก แต่ Phase Detection นั้นสามารถตรวจจับได้ว่าวัตถุอยู่ใกล้หรือไกลกว่าระยะโฟกัสเดิม จึงทำการ AF ได้เร็วกว่า ดังนั้น เมื่อมี 2 ระบบทำงานร่วมกัน Phase Detection ก็จะคอยหาตำแหน่งของวัตถุและตรวจจับว่าวัตุนั้นอยู่ใกล้หรือไกลกว่าระยะโฟกัสเดิม และควรจะหมุนระยะโฟกัสไปทางไหน แถมยังมี Contrast Detection เข้ามาช่วย Autofocus ด้วยอีกตัวหนึ่ง สองตัวช่วยกันหาความเร็วที่ออกมาจึงเร็วกว่าระบบแบบเดิมมาก และในปัจจุบันทั้งกล้อง Mirrorless และ DSLR กำลังก้าวเข้าสู่ระบบ Autofocus แบบ Hybrid กันเรื่อยๆแล้ว



         Canon EOS 100D นั้นใช้ระบบ Hybrid CMOS AF II ที่พัฒนาเพิ่มเติมมาจากระบบ Hybrid AF ใน 650D และ EOS M โดยจุดที่พัฒนาขึ้นมานั้นคือระบบ Hybrid CMOS AF II จะครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ขึ้นมากถึงกว่า 80% และระบบนี้ยังถูกพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้กับเลนส์ STM ได้ดีอีกด้วย

    ราคาในตอนนี้  15,900 - 26,900







วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

เลนส์ Canon EF 24-105 mm F4L IS USM

เลนส์  Canon EF 24-105 mm F4L IS USM
รายละเอียด :
ข้อมูลรายละเอียดของเลนส์ Canon EF 24-105 mm F4L IS USM
รายละเอียด Canon EF 24-105 mm F4L IS USM

คุณสมบัติทางเทนนิคของ Canon EF 24-105 mm F4L IS USM

ระยะโฟกัส (Focal Length) 24-105mm
รูรับแสงกว้างที่สุด (Maximum Aperture) 4
รูรับแสงแคบที่สุด (Minimum Aperture) 22
องค์ประกอบเลนส์ (Lens Construction) 18 ชิ้นใน 13 กลุ่ม
ระยะโฟกัสต่ำสุด (Minimum Focus Distance) 0.45m
Maximum Reproduction Ratio 0.23 (ที่ 105mm)
จำนวนของม่านรับแสง (Number of Diaphragm Blades) 8
มุมของภาพ (Picture Angle) 74º - 19º 20'
ระบบช่วยโฟกัส (Focus Adjustment) Ring USM ¹
ระบบป้องกันการสั่น (Image Stabilizer) มี

ขนาดฟิลเตอร์ (Filter Attachment Size) 77mm.
เลนส์ฮูด (Hood) EW-83H
อุปกรณ์ในกล่อง (Included Accessories)
ขนาด (Dimensions) 83.5mm x 107mm
น้ำหนัก (Weight) 670 กรัม

ราคาในตอนนี้ : 35,500 บาท

รุ่น Canon EOS M

ก็เป็นไปตามที่มีข่าวมาเมื่อตอน กลางๆ เดือน ว่าจะเปิดตัวในวันที่ 23 กรกฎาคม และมีภาพ (จริง) หลุดออกมาก่อนเปิดตัวไม่กี่วัน รูปร่างหน้าตาจะถูกอก ถูกใจใครบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนล่ะครับ zoomcamera.net ไม่ขอฟันธงละกันว่าสวยหรือไม่สวย

จุดเด่นของกล้อง Canon EOS M
เซ็นเซอร์ภาพ APS-C 'Hybrid CMOS'ความละเอียด 18 ล้านพิกเซลหน่วยประมวลผล DIGIC5 processorเมาท์เลนส์ EF-Mความไวแสง ISO 100-12800 ปรับเพิ่มได้ถึง 25600ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4.3 fps  และ 3 fps เมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ trackingบันทึกวิดีโอ Full HD 1080pจอมอนิเตอร์ 3 นิ้ว 1,040,000 พิกเซล แบบ Touch Screen
มีฮอทชูสำหรับแฟลชเสริม

มาดูสเปคการทำงานอื่นๆ กันบ้างว่าเจ๋งแค่ไหน เริ่มจากเซ็นเซอร์ที่มีข่าวออกมาก่อนนี้ว่าจะมี 2 แบบคือ เซ็นเซอร์เท่าๆ กับ Canon PowerShot G1 X ที่มีขนาด 1.5 นิ้ว และเซ็นเซอร์ขนาด APS-C ก็ชัดเจนกันไปล่ะครับ ว่า Canon EOS M ใช้เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C (22.3 x 14.9 มม.) ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล จัดการไฟล์และประมวลผลการทำงานด้วย DIGIC 5 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลใหม่ที่ใช้ในกล้อง  Canon EOS 650D ด้วยนั่นเอง

anon EOS M ออกแบบเมาท์เลนส์ใหม่เป็นเมาท์ EF-M พร้อมๆ กับเปิดตัวเลนส์ใหม่ 2 รุ่นคือ เลนส์ซูม EF-M 18-55mm f/3.5-5.6 IS STM และเลนส์แพนเค๊ก EF-M 22mm f/2 STM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ใช้มอเตอร์ออโต้โฟกัสใหม่แบบ STM (Stepper Motor) ทั้งคู่ โดยเลนส์ STM จะโดดเด่นที่ปรับโฟกัสได้เงียบมาก ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอ ซึ่งจะไม่มีเสียงมอเตอร์ทำงานมารบกวนการบันทึกเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป และสำหรับผู้ที่ใช้เลนส์ EF เดิม สามารถนำมาใช้งานกับกล้อง Canon EOS M ได้ ด้วยอะแดปเตอร์ EF-EOS M ที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันด้วยนั่นเอง โดยสามารถใช้งานได้ทั้งเลนส์ตระกูล EF และ EF-S

เนื่องจากว่า Canon EOS M ใช้เซ็นเซอร์ APS-C เหมือนกับกล้อง D-SLR รุ่นอื่นๆ ดังนั้นจึงให้คุณภาพไฟล์ที่ไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก ส่วนโหมดบันทึกภาพเลือกได้ทั้ง โหมดโปรแกรม (P), ออโต้ความเร็วชัตเตอร์ (AV), ออโต้รูรับแสง (TV) และแมนนวล (M) ซึ่งโหมดย่อยเหล่านี้ จะเลือกจากเมนูการทำงานอีกที นอกจากนี้ยังมี Scene Mode อีกกว่า 8 รูปแบบให้เลือกใช้งานด้วย รวมทั้งบันทึกวิดีโอคุณภาพ Full HD เช่นเดียวกับกล้อง D-SLR ตระกูล EOS รุ่นอื่นๆ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Canon EOS M คือ ปรับควบคุมการทำงานด้วยระบบ Touch Screen เลือกปรับตั้งเมนูการทำงาน, โหมดถ่ายภาพ และฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ จากจอมอนิเตอร์แบบ Clear View LCD IIขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล ซึ่งมีระบบการทำงานคล้ายๆ กับกล้อง Canon EOS 650D ซึ่งเป็น D-SLR ตัวแรกของแคนอนที่ใช้ฟังก์ชั่น touch Screen นี้ด้วยเช่นกัน

 Canon EOS M ปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO100-12800 และปรับเพิ่มได้สูงสุดถึง ISO25600 ซึ่งก็ถือว่ามีช่วงความไวแสงที่กว้างมากทีเดียว และถ้าหากว่าไม่ต้องการปรับเปลี่ยนบ่อยๆ จะเลือกใช้แบบ Auto ให้กล้องปรับชิฟท์ความไวแสงตามความเหมาะสมกับสภาพแสงก็ได้เช่นกัน ส่วนไวท์บาลานซ์ก็เลือกใช้แบบออโต้ก็ได้เช่นกันหรือจะปรับตามสภาพแสงแบบต่างๆ เองก็ปรับได้อีก 6 แบบ และสามารถปรับแบบ Custom ได้อีกหนึ่งแบบด้วย

 ด้านบนของตัวกล้องออกแบบให้มีฮอทชูสำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ GPS หรือแฟลชเฉพาะกิจ โดยพร้อมๆ กับการเปิดตัวกล้อง Mirrorless ใหม่นี้ แคนนอนก็ผลิตแฟลชเฉพาะกิจของกล้อง Canon EOS Mด้วย นั่นคือรุ่น Speelite EX-90 ซึ่งเป็นอุปกนณ์ที่มีมาให้พร้อมๆ กับตัวกล้องด้วยนั่นเอง หรือจะใช้กับแฟลชเฉพาะกิจ Speedlite รุ่นอื่นของแคนนอนก็ได้เช่นกัน
Canon EOS M บันทึกภาพและข้อมูลการทำงานต่างๆ ด้วยเมมโมรี่การ์ดแบบ SDSDHC และ SDXC card ช่อง USB ยังคงเป็นเวอร์ชั่น 2.0 อยู่ และมีช่อง HDMI ด้วย แหล่งพลังงานได้จากแบตเตอรี่ Lithium-Ion LP-E12 ตัวกล้องมีขนาด 109 x 66 x 32 มม. น้ำหนัก 402 กรัม
         ส่วนเมนูการทำงาน รวมทั้งฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ และการวางรูปแบบของเมนูการทำงานของ Canon EOS M นั้นไม่ได้แตกต่างจากกล้อง EOS รุ่นอื่นๆ เท่าใดนัก ซึ่งถ้าหากว่าวางจำหน่ายแล้วzoomcamera.net คงจะมีโอกาสได้นำตัวเป็นๆ มารีวิวกันอีกครั้งครับ

ราคาในตอนนี้ 9,709 บาท




วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

        กล้อง Canon EOS 1100D ประมวลผลอัจฉริยะ DIGIC 4 เซ็นเซอร์ CMOS 12.2 ล้านพิกเซล สามารถใช้ความไวชัตเตอร์ ตั้งแต่ 30-1/4000 วินาที ปรับ ISO ได้ระหว่าง 100-6400 ระบบวัดแสง Multi (63 area), Center, Partial ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็ว 3 fps for up to 830 JPEG, 2 fps for up to 5 RAW frames ปรับชดเชยแสงได้ -2 to +2EV in 1/3EV or 1/2EV steps สามารถดูภาพแบบ Live View Mode จอมอนิเตอร์ LCD 2.7 นิ้ว ความละเอียด 230,000 พิกเซลสามารถถ่ายภาพในโหมด RAW ได้ รองรับ SD/SDHC/SDXC card
กล้องรับประกันศูนย์ 1 ปี  : ฟรี !! เมมโมรี่ 8 Gb , กระเป๋าใส่กล้อง Camera Style , ขาตั้งกล้อง , ชุดทำความสะอาด , แผ่นกันรอยหน้าจอ
แคนนอนมีความภาคภูมิใจในการนำเสนอกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ใหม่ล่าสุด Canon EOS 1100D ที่จะมาเสริมความสมบูรณ์ให้กับ ตลาดกล้องในกลุ่ม Entry - level โดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายขึ้นแต่ยังคงคุณภาพสูง เพื่อกลุ่มผู้ใช้งาน กล้องดิจิตอลคอมแพคที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของการถ่ายภาพด้วยกล้อง D-SLR
นอกจากนี้ แคนนอนฉลองความสำเร็จ ผลิตเลนส์ตระกูล EF ครบ 60 ล้านตัว รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ของตลาดกล้อง D-SLR ด้วยเลนส์รุ่นใหม่ EF 70-300mm f/4-5.6L IS USM ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ใช้งาน ทั้งนี้ เชี่ยวชาญแคนนอนได้เริ่มคิดค้นพัฒนาเลนส์ในตระกูล EF สำหรับกล้องถ่ายภาพแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1987 และได้เฉลิมฉลองยอดผลิตครบ 50 ล้านตัวไปเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009 ที่ผ่านมานี้เอง
         กล้องดิจิตอลแคนนอน EOS 1100D กล้อง D-SLR ดีไซน์ใหม่ เอาใจกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการกล้องที่ช่วยเสริมบุคคลิกของตน มีให้เลือก 4 สี มาพร้อมกับสายคล้องคอเข้าชุด โดยยังคงความสามารถอันโดนเด่นตามแบบฉบับของกล้อง D-SLR จากแคนนอน หน้าจอ LCD TFT 2.7 นิ้ว ความละเอียด 230,000 จุด ให้องศาการแสดงภาพมุมกว้าง วิจัยและพัฒนาปุ่มการใช้งานให้สามารถทำงานได้ในมือเดียว ฟังก์ชั่น Basic+ ปลดปล่อยขีดจำกัดของจินตนาการ ในการถ่ายภาพของคุณให้โดดเด่นดั่งใจ ร่วมด้วย Feature Guide อธิบาย คุณสมบัติการใช้งานของฟังก์ชั่นต่างๆ ในตัวกล้อง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน และเพื่อเพิ่มพลังความสามารถในการถ่ายภาพจากกล้อง D-SLR ให้กับภาพถ่ายของคุณ กล้อง EOS 1100D จึงมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะDIGIC 4 ขุมพลังของกล้องดิจิตอลแคนนอน และใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ด้วยช่วงความไวแสงกว้างถึง ISO 100-6400
แสดงความรายละเอียดของไฟล์วิดีโอ
คุณสมบัติเด่น EOS 1000D เปี่ยมด้วยความสามารถตามแบบฉบับกล้อง D-SLR
  • โฟกัสแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ 9 จุด
  • จุดออโต้โฟกัส 9 จุด (-point AF (central cross-type f/5.6) with light source detection function for high-speed and high-precision focusing
  • สร้างสรรค์จินตนาการแห่งภาพถ่ายได้แม้ใช้โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติ (Basic +)
  • ถ่ายทอดอารมณ์ให้กับภาพถ่าย ด้วยการเลือกบรรยากาศของภาพที่ต้องการ เป็นเมนูคำสั่งที่ใช้คำง่ายๆ ในการอธิบายถึงการถ่ายภาพตามการเลือกบรรยากาศโดยการเลือกใช้ Picture Style และค่าพารามิเตอร์ต่างๆ (ค่ามาตรฐาน / สดใส / นุ่มนวล / อบอุ่น/ หนักแน่น / เยือกเย็น /สว่างขึ้น / มืดลง / ภาพขาวดำ)
  • การถ่ายภาพโดยตั้งค่าแสงหรือฉากของภาพ เป็นเมนูคำสั่งที่ใช้คำง่ายๆ ในการอธิบายถึงการเลือกใช้ การตั้งค่าแสงหรือบรรยากาศ (White Balance) แบบต่างๆ (ตั้งค่าเริ่มต้น / แสงแดด / แสงในร่ม / เมฆครึ้ม / หลอดไฟทังสเตน / หลอดฟลูออเรสเซนต์ / อาทิตย์ตก)

  • การปรับตั้งค่าแก้ไขระดับแสงบริเวณขอบภาพ (Peripheral illumination auto correction)


  •  ช่วยปรับแก้ไขขอบดำของภาพ JPEG อันเนื่อง มาจาก เลนส์ให้อัตโนมัติ
  • โดยสามารถบันทึกข้อมูลเลนส์ลงในกล้องได้สูงถึง 40 รุ่น
  • พัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ (Auto Lighting Optimizer)
  • สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานได้จากคัสตอมฟังก์ชั่น 4 รูปแบบคือ มาตรฐาน Standard,สูง Strong, น้อย Weak และปิดการใช้งาน none

  • เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง (Highlight tone priority)
  • ช่วยเพิ่มรายละเอียดในส่วนสว่างจ้าของภาพถ่ายให้มีมากขึ้น
  • บันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับ HD movie
  • ไฟล์คุณภาพ HD (1280 x 720)
  • เลือกค่าเฟรมเรทได้แบบ 60p, และ 50p
  • ไฟล์คุณภาพ มาตรฐาน SD (640 x 480)
  • เลือกค่าเฟรมเรทได้แบบ 60p, และ 50p
  • มีหน้าเมนูสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน
  • จัดลำดับภาพ ด้วยการให้คะแนน (Ratings)
  • จัดลำดับภาพด้วยการให้คะแนน (1-5 ดาว) โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแสดงภาพได้ตามคะแนนที่ให้ไว้
  • แสดงภาพอัตโนมัติแบบสไลด์โชว์
  • ปรับปรุงฟังก์ชั่นการเล่นภาพอัตโนมัติ โดยให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่ต้องการแสดงได้ง่ายขึ้น คือ เลือกแสดงภาพทั้งหมด, เลือกโฟล์เดอร์ที่ต้องการแสดงภาพ, เลือกเฉพาะวันที่ที่ต้องการแสดงภาพ, เลือกแสดงเฉพาะภาพเคลื่อนไหว, เลือกแสดงเฉพาะภาพนิ่ง หรือเลือกแสดงเฉพาะภาพตามคะแนนที่ให้ไว้
  • จอ LCD ขนาดใหญ่ 2.7 นิ้ว ความคมชัดสูง
  • ความละเอียด 230,000 พิกเซล
  • ปรับความสว่างของจอได้ 7 ระดับ
  • เคลือบผิวป้องกันรอยนิ้วมือ
  • รองรับการใช้งานหน่วยความจำรูปแบบใหม่ SDXC card
  • รองรับการใช้งานหน่วยความจำรูปแบบ SD card, SD-HC card, และ SD-XC Card
  • ทั้งนี้รองรับหน่วยความจำสูงสุด 2 terrabytes
  • ฟังก์ชั่นการจัดการโฟลเดอร์ภาพ
  • ผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์ และเลือกบันทึกภาพลงในโฟลเดอร์ที่ต้องการได้ จากเมนู[folder selection]
  • นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งลบภาพทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ที่เลือกได้
เก็บทุกรายละเอียด เพื่อสุดยอดคุณภาพแห่งภาพถ่าย

  • เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายสมบูรณ์แบบด้วยการพัฒนา Microlens array ให้มี                                                                                                                      ช่องว่างน้อยที่สุด ให้ไดนามิคเรนจ์ของภาพถ่ายกว้าง และมีสัญญาณรบกวน (Noise)ต่ำ
  • ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะ DIGIC 4 ลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน ประมวลผลภาพ ได้อย่างรวดเร็วอย่างมีคุณภาพ
  • ประมวลผลภาพได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น




  • พัฒนาคุณภาพให้มีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ ในขณะเปิดใช้งานความไวแสง สูงๆ โดยไม่ทำให้ความเร็วในการทำงานของกล้องลดลง
  • โหมดออโต้โฟกัสแบบตรวจจับใบหน้า Live Face detection (AF)
  • พัฒนาประสิทธิภาพของฟังก์ชั่นของระบบปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ (Auto lighting optimizer)
  • พัฒนาประสิทธิภาพของฟังก์ชั่นของระบบปรับสมดุลแสงอัตโนมัติ (Auto lighting optimizer)
  • การปรับตั้งค่าแก้ไขระดับแสงบริเวณขอบภาพอัตโนมัติ (Lens peripheral illumination auto correction)
  • รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ HDMI ออก (ตามมาตรฐาน CEC)
  • เลือกตั้งขนาดไฟล์ภาพ JPEG ได้ 5 ขนาด
  • สมบูรณ์ทุกสภาพแสง แม้ใช้งานด้วยความไวแสงสูง
  • ช่วงความไวแสงกว้าง สามารถเลือกได้ตั้งแต่ ISO 100 - 6400 (และสามารถขยายได้สูงถึง : ISO 12800)
  • ปรับระดับการลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ 4 ระดับ
  • กำหนดช่วงความไวแสงที่ต้องการใช้งานได้ในโหมด Auto ISO


ระบบวัดแสงแบบมืออาชีพ
  • เซ็นเซอร์วัดแสงแบบ dual-layer แบ่ง 63 โซน
  • ใช้ข้อมูลการโฟกัสอัตโนมัติ ช่วยในการปรับตั้งค่าแสงให้อัตโนมัติ
  • ปรับชดเชยแสงได้ ± 5 ระดับ
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 3 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่องกันจนกว่าเม็มโมรี่การ์ดเต็ม (แบบ JPEG)หรือ 2 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่องกัน 5 ภาพ (แบบ RAW)

ใช้งานง่าย

  • โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติแบบสร้างสรรค์ (Creative Auto: CA Mode)
  • เหมาะสำหรับผู้ใช้งานกล้องที่ต้องการมากกว่าโหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
  • การปรับตั้งค่าพื้นฐานจะเหมือนกับโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แต่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่า บรรยากาศของภาพ, เลือกปรับความชัด-เบลอของฉากหลังของภาพ ตามที่ต้องการเพิ่มเติมได้อีกด้วย
  • ง่ายต่อการเข้าถึงเมนูการใช้งานด้วย Quick control screen
  • โดยการกดปุ่ม Q ที่อยู่บนตัวกล้อง
  • สะดวกใช้งานด้วย Feature guide
  • แสดงประโยชน์การใช้งานของแต่ละฟังก์ชั่นอย่างย่อ เพื่อช่วยเสริมความเข้าใจในการเลือกใช้งานแต่ละฟังก์ชั่น โดยจะแสดงทั้งในโหมดการถ่ายภาพ การเลือกวงแหวนควบคุมโหมดการถ่ายภาพและฟังก์ชั่น Quick Control screen
  • เมนูการใช้งานภาษาไทย
  • มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีแดง , สีน้ำตาล, สีเทาเมทาลิค และ สีดำ ทั้งนี้ สายคล้องกล้องจะมีสีเดียวกับสีของตัวกล้อง
ราคาในตอนนี้  18,600.00 บาท







วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

Canon PowerShot A2500 - Silver


รายละเอียด:ให้รูปถ่ายของคุณคมชัดกว่าที่เคย ด้วย Canon PowerShot A2500 - Silver กล้องถ่ายรูปดิจิตอลคอมแพคดีไซน์ล้ำสมัยจาก Cannon ให้การถ่ายภาพของคุณเป็นเรื่องสนุก และได้ภาพคมชัด เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ  
คุณสมบัติเด่น กล้องดิจิตอลคุณภาพกำลังซูม 5 เท่าCanon PowerShot A2500 - Silver โทนสีเงิน ดีไซน์ทันสมัย ขนาด 97.7 x 56.0 x 20.9 มม. เล็กกะทัดรัด เหมาะมือ น้ำหนัก 0.125 กก. มาพร้อมหน้าจอ LCD คมชัดขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 16 MP และ Optical Zoom สูงสุดถึง 5 เท่า ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้แม้ถ่ายในระยะไกล ใช้ SD Memory Card, SDHC Memory Card และ SDXC Memory Card สำหรับบันทึกไฟล์ภาพ ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ Lithium-ion สามารถชาร์จเพื่อใช้งานหลายครั้งได้ รับประกัน 1 ปี โดย Canon Thailand
ราคาในตอนนี้ 2,690 บาท

Canon EF-S 55-250mm


รายละเอียด 
1. แนะนำเบื้องต้น
EF-S 55-250mm f/4-5.6 IS เป็นเลนส์ที่ มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และเป็นเลนส์ช่วงเทเลที่ราคาไม่แพงนัก.
ใช้ได้แต่เฉพาะกล้อง Canon APS-C/1.6x เท่านั้น ( รุ่นที่มีเลขตัวเดียวใช้ไม่ได้ ).เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ ef-s ตัวแรกของค่าย Canon ที่มีความยาวโฟกัสมากกว่า 85 มม. ( ในตัว ef-s 17-85 ).ระยะโฟกัส x1.6 = 88 - 400
2. สรีระภายนอก
น้ำหนักชั่งได้ 13.8 oz (390g) นั่นก็คือ เกือบ ๆ 4 ขีดสัดส่วน 2.8 x 3.4" (70.0 x 108.0mm)ฟิลเตอร์หน้า 58 mm
3. F-stop
F 4    ที่ระยะ 55 mmF 4.5  ที่ระยะ 74 mmF 5.0  ที่ระยะ 96 mmF 5.6 ที่ระยะ 154 mm
4. IS
กันสั่นได้ 4-stop
5. Lens
ชิ้นเลนส์ 12 ชิ้นแบ่งเป็น 10 กลุ่มมี UD Lens 1 ชิ้น
6. UD Lens(ultra low dispersion)  เป็นชิ้นเลนส์พิเศษที่มีอยู่ในเลนส์ Lช่วยลดอาการขอบภาพม่วงและทำให้ขอบภาพคม
ราคาในตอนนี้ 
6,900 บาท 

กล้องรุ่น Canon EOS 600D Lens kit (Kiss X5)


     กล้องดิจิตอลรุ่น Canon EOS 600D Lens kit (Kiss X5)
ความละเอียด 18.0 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ CMOS ขนาด 22.3 x 14.9 มม. 
ระบบประมวลผล 14 bit Digit 4 โปรเซสเซอร์ ให้โทนภาพที่เนียนสวย สีสดสมจริง สัญญาณรบกวนต่ำ 
มีระบบป้องกันและขจัดฝุ่นเซนเซอร์ในตัว EOS integrated cleaning system 
จอแสดงภาพ LCD ขนาด 3.0 นิ้ว ความละเอียดสูง 1,040,000 จุด พร้อมระบบ Live View mode แสดงภาพจริงก่อนถ่าย 
จอภาพแบบ Vari-angle บานพับด้านข้างปรับหมุนได้รอบ ไม่มีปัญหาเมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กริปหรือขาตั้งกล้อง 
ระบบคำนวนค่าแสง iFCL แบบแบ่งพื้นที่เฉลี่ย 63 โซน ที่ออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบออโต้โฟกัส โดยเน้นความสำคัญไปยังตำแหน่งโฟกัสที่เลือก 
บันทึกภาพเคลื่อนไหวในแบบ Full HD movie ความละเอียด 1920 x 1080 p ควบคุมการทำงานด้วยระบบแมนนวลได้เต็มรูปแบบ สามารถถ่ายเป็นคลิปย่อยและรวมเป็นไฟล์เดียวได้ เปรียบเสมือนการตัดต่อแบบมืออาชีพ 
ระบบ Digital Zoom อัตราขยาย 3-10 เท่า ขณะบันทึกวีดีโอ และยังคงคุณภาพระดับ Full HD 
ถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องความเร็ว 3.7 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่องสูงสุด 34 ภาพ ในโหมด JPEG หรือ 6 ภาพ ในโหมด RAW 
ระบบ Creative Effect สร้างสรรค์ภาพได้หลากหลายรูปแบบ Toy Camera / Soft Focus / Miniature / Grainy Black & White / Fish Eye simulations 
ช่วงความไวแสง ISO 100 - 6400 ปรับชดเชยเพิ่มได้ถึง ISO 12800 
มีะรบบควบคุมแฟลชแบบไร้สาย เมื่อใช้งานร่วมกับแฟลชเสริมของแคนนอนตระกูล EX 
มีระดับน้ำแบบอิเลคทรอนิคส์ในตัว ช่วยให้ปรับตั้งกล้องได้ระนาบไม่เอียงซ้าย-ขวา หรือก้ม-เงย 
On-screen Feature Guide คำแนะนำสำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ พร้อมวิธีใช้ที่แสดงบนหน้าจอ LCD ช่วยให้เรียนรู้การทำงานได้ง่าย และสร้างสรรค์ภาพสวยได้ไม่ต่างจากมืออาชีพ
ราคาในช่วงนี้
14,800 - 32,500